เมนูนำทาง
กลอนสุภาพ กลอน 6ตามหลักฐานทางวรรณคดีไทย กลอน 6 พบครั้งแรกในกลบทศิริวิบุลกิตติ สมัยอยุธยาตอนปลาย[2] นอกนั้นก็แทรกอยู่ในกลอนบทละคร แต่ที่ใช้แต่ตลอดเรื่องเริ่มมีในสมัยรัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คือ กนกนคร ของกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.)
คณะ กลอนหก บทหนึ่งประกอบด้วย 2 บาท บาทละ 2 วรรค วรรคละ 6 คำ ตามผัง
O O O O O O | O O O O O O | |
O O O O O O | O O O O O O |
สัมผัสนอก ให้มีสัมผัสระหว่างคำสุดท้ายวรรคหน้ากับคำที่สองของวรรคหลังของทุกบาท และให้มีสัมผัสระหว่างบาทคือคำสุดท้ายของวรรคที่สองสัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่สาม ส่วนสัมผัสระหว่างบท กำหนดให้คำสุดท้ายของบทแรก สัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่สองของบทถัดไป
สัมผัสใน ไม่บังคับ แต่หากจะให้กลอนสละสลวยควรมีสัมผัสระหว่างคำที่สองกับคำที่สาม หรือระหว่างคำที่สี่กับคำที่ห้าของแต่ละวรรค
ตัวอย่างกลอน 6วันหนึ่งสากลย์คนธรรพ์ | พร้อมกันสังคีตดีดสี | |
เป็นที่เหิมเหมเปรมปรี | ต่างมีสุขล้ำสำราญ |
บางองค์ทรงรำทำเพลง | บังคลบรรเลงศัพท์สาร | |
บันเทิงเริงรื่นชื่นบาน | ในวารอิ่มเอมเปรมใจ | |
— กนกนคร, กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ |
เมนูนำทาง
กลอนสุภาพ กลอน 6ใกล้เคียง
กลอนสุภาพแหล่งที่มา
WikiPedia: กลอนสุภาพ